Intermittent fasting
กรกฎาคม 17, 2562
Intermittent fasting สำหรับผู้เริ่มต้น
Intermittent fasting (IF) สำหรับผู้เริ่มต้น

การทำ Intermittent fasting เรียกสั้นๆได้ว่า ( IF ) คือการที่เราเว้นช่วงในการทานอาหารของวัน โดยมีการแบ่งออกเป็นช่วงๆมี IF(12/12) ,IF(16/8), IF(23/1) หรืออาจจะเป็น IF(22/2) แอดมินเชื่อว่าหลายๆคนงงกับตัวเลขที่แอดมินเขียนขึ้นจริงๆแล้วมันเป็นการเว้นช่วงการอดอาหารกับการทานอาหาร นั้นเอง ในช่วงที่เราจะอดอาหารนั้นรวมถึงการช่วงเวลาที่เรานอนด้วย และถ้าเราฝึกฝนไปเรื่อยๆ โดยที่ต้องไม่ทำให้ร่างกายเกิดความเครียดเราสามารถได้รับประโยชน์จากการเว้นช่วงอดอาหารนั้นได้อีกด้วย สิ่งที่จะได้รับจากการเว้นช่วงอดอาหารนั้นคือฮอโมนต่างๆ ที่เริ่มเสื่อมสภาพกลับมาทำงาน และ ยังสามารถช่วงซ่อมแซมร่างกายซึ่งทำให้ร่างกายห่างไกลจากโรคต่างๆที่เกิดจากการอาหารที่ทำร้ายร่างกายทำให้เกิดโรค ช่วงเวลาในการอดอาหารหรือจะเรียกว่าอยู่ในช่วง fasting สิ่งที่เราสามารถทานได้คืออาหารที่ไม่แคลอรี่เลย เช่น น้ำเปล่า น้ำผสมเกลือ น้ำผสมน้ำส้มสายชูหมัก กาแฟดำที่ไม่ใส่น้ำตาล ชาเขียวหรือชาดำที่ไม่ใส่น้ำตาล
ช่วงเวลาในการทำ if ในช่วงแรกๆสำหรับผู้ที่กำลังฝึกฝนอยู่นั้นมีอยู่ 2 ช่วง คือ IF (12/12) และ IF (16/8) สองช่วงเวลานี้เป็นระยะสำหรับผู้ที่เริ่มฝึกซึ่งทำได้ง่ายๆโดยมีหลักการดังนี้ คือ
ตัวอย่างที่ 1 ตั้งโจทย์ให้กับร่างกายตัวเราเอง คือ วันนี้17/07/62 จะทำ IF (12/12 ) คือ เราจะทำการอดอาหารเป็นเวลา 12 ชั่วโมง และ เราจำกินอาหารในเวลา 12 ชั่วโมง ถ้าเกินจากเวลาที่เรากำหนดไว้นั้นเราจะหยุดกิน เช่น นาย ก. หยุดกินอาหารตอนเวลา18.00 น. ของวันที่ 17/07/62 ให้เริ่มนับเวลาจากตอนหยุดกินคือ 19.00น .ไปให้ครบ 12 ชั่วโมง ให้นับช่วงเวลาในการนอนไปด้วย นาย ก. จะได้เริ่มกินอาหารอีกรอบคือเวลา 6 โมงเช้าของวันที่ 18/07/62 โดยนาย ก กินอาหารได้ตามปกติและหยุดกินตอนเวลา 18.00 น. ของวันที่ 18/07/62 แต่ถ้าอยากให้เห็นผลจากการทำ IF (12/12)นั้น นาย ก จะต้องควบคุมอาหาร โดยเน้นอาหารที่มีประโยชน์ มีสารอาหารครบถ้วน ไม่ทานจุกจิก ถ้าตัดอาหารจำพวกอาหารที่มีการปรุงแต่ง และ มีส่วนผสมของน้ำตาลออกไปได้จะทำให้เห็นผลมากขึ้น
ข้อดีของการทำ IF (12/12) คือ ไม่ทำให้ร่างกายเครียดจนเกินไปและสามารถหยุดการทานจุกจิกได้ ทำให้เรามีระเบียบวินัยในการทานอาหารมากขึ้น
ตัวอย่างที่ 2 ตั้งโจทย์ ให้กับร่างกายตัวเราเอง คือ วันนี้ 17/07/62 จะทำ IF (16/8) คือ เราจะทำการอดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมง และ เราจะกินอาหารภายในเวลา 8 ชั่วโมง ถ้าเกินจากเวลาที่เรากำหนดไว้นั้นเราจำทำการหยุดกิน เช่น นาย ก. หยุดกินอาหารตอนเวลา 20.00 น.ของวันที่ 17/07/62 ให้เริ่มนับเวลาจากตอนหยุดกินคือ 21.00 น. ไปให้ครบ 16 ชั่วโมง รวมถึงการนอนหลับไปด้วย นาย ก. จะเริ่มทานอาหารที่มีแคลอรี่ได้คือเวลาเที่ยงวันของวันที่ 18/07/62 และหยุดกินในเวลา 20.00 น.ของวันที่ 18/07/62 โดยในช่วงเวลาเช้า 6 โมงเช้า – 12.00 น. นาย ก. จะทานได้แค่น้ำเปล่า กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล ชาเขียวหรือชาดำไม่ใส่น้ำตาลเท่านั้น ในช่วงเที่ยง ของวันที่ 18/02/62 ที่นาย ก เริ่มทานอาหารที่มีแคลอรี่นั้นนาย ก จะต้องคุมอาหาร และ เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ตัดอาหารที่มีการปรุงแต่งและมีส่วนผสมของน้ำตาล จะทำให้การทำ IF (16/8) นั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข้อดีของการทำ IF (16/8) คือ ไม่ทำให้ร่างกายเกิดความเครียด ทำให้ร่างกายมีระเบียบวินัยในการทานอาหาร และ ร่างกายได้เคลียอาหารที่ยังคงค้างในร่างกายได้มากขึ้น ทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
ข้อดีของการทำ Intermittent fasting
1 ) ช่วยลดไขมันสะสม และ กระตุ้นการเผาผลาญ พร้อมกับการสร้างกล้ามเนื้อ
2 ) ยับยั้งการอักเสบภายในร่างกายได้ ช่วยซ่อมแซมเซลล์และเนื้อเยื้อที่เกิดความเสียหาย
3 ) ลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ
จากที่ยกตัวอย่าง 2 ช่วงเวลาสำหรับผู้เริ่มต้นเป็นวิธีที่ง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นที่คิดจะทำ IF แต่สำหรับผู้เคยทำมาและผ่านการฝึกฝนมาแล้วคงทราบถึงข้อดีในการทำ IF ถ้าเราหมั่นฝึกฝนร่างกายของเราเกิดการปรับตัวความสามารถในการอดอาหารของเรานั้นได้นานขึ้นเราจะพบว่าร่างกายของเรานั้นฉลาดและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อาการเจ็บป่วยที่เคยเกิดขึ้นก็ค่อยๆหายไป ฉะนั้นเรามาฝึกการทำ IF และ จัดระเบียบการทานอาหารกันดีกว่าเพื่อสุขภาพที่ดี และ หางไกลจากหมอ ถ้าใครสนใจวิธีการ IF อย่างจริงจังแล้วละก็สามารถหาข้อมูลเพิ่มใน อากู๋ หรือในกลุ่ม Intermittent fasting Thailand ใน Facebook ดูนะคะ
เรียบเรียง :: แอดมินฝน รีวิวทุกที่